เทคนิคเขียน Microsoft 365 Copilot prompts อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด Leave a comment

copilot prompts

ในยุคที่เครื่องมือ AI อย่าง Microsoft Copilot กำลังมีบทบาทในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การเรียนรู้วิธีสร้าง Copilot Prompts ที่ให้ผลลัพธ์แม่นยำ ตรงตามบริบท และมีประโยชน์จึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าคุณจะใช้งานใน Word, Excel, Teams หรือ Power Platform การตั้งคำถามหรือคำสั่งที่ถูกต้องสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์จากธรรมดาให้ยอดเยี่ยมได้ 

ทำความรู้จักกับ Copilot Prompts 

Microsoft AI Prompts คือคำถามหรือคำสั่งที่คุณใช้เพื่อบอก Copilot ว่าคุณต้องการอะไร โดยทั่วไปประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ เป้าหมาย บริบท ความคาดหวัง และแหล่งข้อมูล ตามที่แสดงในภาพ 

คุณสามารถระบุเพียงเป้าหมายเดียว หรือใส่รายละเอียดให้มากขึ้นก็ได้ ยิ่งให้รายละเอียดมากเท่าไร ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะใกล้เคียงกับความต้องการของคุณมากขึ้น ตัวอย่างเช่น: 

ระบุเป้าหมายและแหล่งข้อมูล: 

สรุปอีเมลทั้งหมดจาก Sam ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ระบุเป้าหมาย บริบท และความคาดหวัง: 

ร่างโครงสร้างคู่มือฝึกอบรมเกี่ยวกับการบริหารเวลา กลุ่มเป้าหมายคือนักวิชาชีพที่ทำงานแบบไฮบริด ต้องเข้าร่วมประชุมออนไลน์ และส่งงานตามกำหนด โทนของเอกสารควรเป็นมิตรและให้คำแนะนำอย่างนุ่มนวล 

โดยทั่วไปคุณอาจต้องมีการโต้ตอบกับ Copilot หลายครั้งเพื่อปรับแต่งผลลัพธ์ให้ตรงความต้องการที่สุด 

 

สามารถทำอะไรได้บ้างกับ Prompts 

Copilot ขับเคลื่อนด้วย Large Language Models (LLMs) ที่เชื่อมต่อกับแอป Microsoft 365 และข้อมูลภายในองค์กร คุณจึงสามารถทำได้มากกว่าการใช้แชตบอททั่วไป เช่น ดึงข้อมูลจากอีเมล รายงาน งานนำเสนอ หรือบทความ เพื่อสร้าง แก้ไข หรือสรุปเนื้อหา รวมถึงตั้งคำถามได้อย่างแม่นยำ 

ติดตามข้อมูล: 

หากคุณพลาดการประชุม Copilot ใน Teams สามารถช่วยคุณด้วยคำสั่ง: 

“มีคำถามอะไรบ้างที่ถูกถามในที่ประชุม?”
“มีไอเดียอะไรบ้างที่ถูกเสนอ?” 

สร้างเนื้อหา: 

สร้างพรีเซนเทชันเกี่ยวกับการบริหารเวลา ด้วยคำสั่งใน PowerPoint: 

“สร้างพรีเซนเทชันสั้นๆ เกี่ยวกับการบริหารเวลา” 

หรือร่างอีเมลแสดงความยินดีใน Outlook: 

“เขียนอีเมลแสดงความยินดีกับหัวหน้าโปรเจกต์และทีมในวันเปิดตัวโปรเจกต์” 

สอบถาม: 

กำลังวางแผนท่องเที่ยว? ลองใช้คำสั่ง: 

“แนะนำทริป 3 วันในฮาวาย” 

หรือหากคุณเป็นหัวหน้าทีมที่ต้องการสร้างกิจกรรมร่วมกัน: 

“เสนอไอเดียกิจกรรมสร้างความสามัคคีในทีม” 

แก้ไข: 

ใน Word สามารถเลือกย่อหน้าแล้วใช้ Copilot เพื่อ: 

“Rewrite with Copilot” – ให้ Copilot ช่วยเขียนใหม่ 

หรือใน PowerPoint ลองใช้คำสั่ง: 

“เพิ่มรูปเป้ายิงธนูพร้อมลูกศร” 

 

สำหรับผู้ใช้งานในองค์กร 

Copilot สำหรับองค์กรสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลภายใน เช่น รายงานการประชุม ไฟล์เอกสาร หรือแชตในทีมงาน ทำให้สามารถสั่งงานได้เช่น: 

“สร้างโครงร่างหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับคู่ค้าสำหรับ Project X”
“มีข่าวสารอะไรใหม่จาก Sam บ้าง?”
“สร้างพรีเซนเทชันเปิดโปรเจกต์จากบทสนทนาในแชต” 

สิ่งที่ควรคำนึงถึง 

ควรตรวจสอบและยืนยันคำตอบที่ได้จาก Copilot อยู่เสมอ เนื่องจาก Copilot ขับเคลื่อนด้วย Large Language Models (LLMs) ซึ่งเป็นเครื่องมือขั้นสูงในการคาดการณ์และสร้างข้อความโดยอัตโนมัติ บางครั้งอาจมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องปรากฏอยู่ในคำตอบ เนื่องจากแหล่งข้อมูลของ LLMs มีความหลากหลายและซับซ้อน ดังนั้นควรพิจารณาผลลัพธ์จาก Copilot โดยเปรียบเทียบกับแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เมื่อจำเป็น 

การใช้คำสั่งเดิมซ้ำหลายครั้งอาจได้คำตอบที่แตกต่างกัน LLMs ทำงานบนพื้นฐานของโครงข่ายประสาทเทียม ซึ่งมีองค์ประกอบของความสุ่มอยู่ แม้จะใช้คำสั่งเดิม คำตอบที่ได้ก็อาจเปลี่ยนไปเล็กน้อยในแต่ละครั้ง 

โปรดใช้ Copilot ด้วยความเคารพ จริยธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย หลีกเลี่ยงการใช้ Copilot เพื่อวัตถุประสงค์ที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น ดูแนวทางและมาตรฐานของเราเกี่ยวกับ AI ที่รับผิดชอบ 

 

ทำไม Copilot Prompts จึงสำคัญ 

Copilot ไม่ใช่นักอ่านใจ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อได้รับบริบทที่เหมาะสม หากใช้คำสั่งที่คลุมเครือหรือไม่มีโครงสร้าง Copilot อาจให้คำตอบที่ไม่ชัดเจนหรือไม่ตรงจุด แต่หากคุณสร้างคำสั่งอย่างชัดเจนและมีโครงสร้าง จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและคุณค่าให้กับผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็นการสรุปเอกสารหรือสร้างรายงานข้อมูล ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับว่าคุณสั่ง Copilot อย่างไร 

 

หลักการสำคัญในการสร้าง Copilot Prompts อย่างมีประสิทธิภาพ 

prompts goal

  1. ชัดเจนและเจาะจง

หลีกเลี่ยงคำสั่งทั่วไป เช่น “เขียนอะไรบางอย่าง” ลองใช้แบบนี้แทน:
🔹 “เขียนอีเมลติดตามผลแบบมืออาชีพหลังจากประชุมกับลูกค้า พร้อมสรุปประเด็นสำคัญที่ได้พูดคุยกัน” 

  1. ระบุบริบท

บริบทช่วยให้ Copilot เข้าใจจุดประสงค์ของคุณมากขึ้น ระบุเหตุผลหรือเป้าหมายของคำสั่ง
🔹 “สรุปเอกสารฉบับนี้เพื่ออธิบายความเสี่ยงทางกฎหมายให้ผู้ที่ไม่ใช่นักกฎหมายเข้าใจ” 

  1. ระบุรูปแบบผลลัพธ์ที่ต้องการ

หากต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นรายการ ตาราง หรือย่อหน้า ให้ระบุไว้
🔹 “สร้างรายการหัวข้อแบบ bullet 5 ข้อ อธิบายประโยชน์ของการย้ายระบบขึ้นคลาวด์” 

  1. ใช้คำสั่งที่มีบทบาทเฉพาะ

การให้บทบาทกับ Copilot จะช่วยกำหนดโทนและความลึกของเนื้อหา
🔹 “ทำตัวเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลแล้วเขียนนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการทำงานแบบไฮบริด” 

  1. ใส่ตัวอย่างเมื่อต้องการให้เลียนแบบสไตล์

หากต้องการให้ Copilot เลียนแบบรูปแบบหรือสไตล์ของคุณ ให้ใส่ตัวอย่างสั้นๆ
🔹 “สร้างบทสรุปแบบเดียวกับตัวอย่างด้านล่างนี้ แต่ใช้กับเอกสารใหม่” 

 

ตัวอย่างการใช้งาน Copilot Prompts ทั่วไป 

กรณีการใช้งาน ตัวอย่างคำสั่ง 
การร่างอีเมล “เขียนอีเมลสุภาพเพื่อปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมประชุม” 
การสรุปเนื้อหา “สรุปข้อมูลชุดนี้ใน Excel ให้กลายเป็น KPI หลักสำหรับผู้บริหาร” 
การวิเคราะห์ข้อมูล “วิเคราะห์แนวโน้มยอดขายในไตรมาสแรกจากชุดข้อมูลนี้” 
การเตรียมประชุม “สร้างวาระการประชุมสำหรับการต้อนรับลูกค้าใหม่” 
การเขียนนโยบาย “ร่างนโยบายการทำงานจากระยะไกล โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน: คุณสมบัติ, เครื่องมือ, และกฎการสื่อสาร” 

 

เคล็ดลับในการปรับแต่ง Prompts 

  • ทบทวนและปรับแต่ง: ผลลัพธ์ของ Copilot จะดียิ่งขึ้นเมื่อมีคำติชม ขอให้ปรับหรือจัดรูปแบบใหม่ตามที่คุณต้องการ 
  • เพิ่มคำสั่งซ้อน: สามารถใส่คำสั่งเพิ่มเติม เช่น “ให้สั้นลง” หรือ “เปลี่ยนโทนให้เป็นมิตร” 
  • ฝึกฝนและทดลอง: ยิ่งใช้งานบ่อย ยิ่งพัฒนา Prompts ได้ดีขึ้น 

 

ข้อคิดส่งท้าย 

การสร้าง AI Prompts อย่างมีประสิทธิภาพเป็นทักษะที่พัฒนาขึ้นได้จากการฝึกฝน ลองนึกว่าเป็นการสนทนา—หากคุณสื่อสารอย่างชัดเจน เจาะจง และมีจุดมุ่งหมาย คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ประหยัดเวลา มีคุณภาพ และช่วยให้คุณทำงานได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น เมื่อ Microsoft พัฒนา Copilot อย่างต่อเนื่อง Prompts ที่ดีจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของเครื่องมือนี้ 

นอกจากบทความนี้ คุณยังสามารถอ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ไมโครซอฟต์ ได้ที่ Fusion SolutionFusion Solution 365ChatframeworkIPPhoneSeedKM, และ AskMePlease

Related Articles: Microsoft Azure

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *