รีวิวการใช้งานจริง ระบบลงเวลาทำงาน Jarviz ตอนที่ 1 ตอนที่ 1 การติดตั้งและเมนูการใช้งานต่างๆ Jarviz คือโปรแกรมที่ใช้ในการบันทึกเวลาเข้าออก และรายละเอียดการทำงานของพนักงาน โดยใช้เทคโนโลยี Mobile Time Attendance ทำให้ระบบรองรับการทำงานจากที่ไหนก็ได้ (anywhere) เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการขององค์กรในยุคปัจจุบัน Jarviz จะมีการระบบการทำงานหลักอยู่ 2 ส่วนคือ 1. ส่วนของการทำงานบนเว็บไซต์ ( Web Application) ในส่วนของการทำงานบนเว็บไซต์นั้น
โปรแกรมสำหรับลงเวลาเข้าออกงานเป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งในองค์กร เนื่องจากการบันทึกเวลาเข้าออกงาน นั้น จะเป็นข้อมูลในการนำไปคำนวณค่าใช้จ่ายเงินเดือนของพนักงาน การประเมินความเพียงพอของทรัพยากรบุคคลต่อเนื้องาน และอื่น ๆที่สำคัญ ทำให้หลาย ๆองค์กรนำเครื่องมือและโปรแกรมบันทึกการเข้าออกงานมาใช้กันอย่างแพร่หลาย และนั่นเองทำให้ตลาดโปรแกรมสำหรับลงเวลาเข้าออกงานมีการแข่งขันที่สูงขึ้นในปัจจุบัน หลาย ๆบริษัทผู้จำหน่ายได้พัฒนา โปรแกรมให้มีฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด อาทิ การเพิ่มฟังก์ชันการลาของพนักงาน การคำนวณค่าล่วงเวลากับปริมาณงาน หรือกระทั่งการเบิกจ่ายต่าง ๆ ของพนักงาน ในปัจจุบันมี โปรแกรมสำหรับลงเวลา เข้าออกงาน อยู่เป็นจำนวนมากที่จำหน่ายในตลาด ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็จะมีฟังก์ชันการทำงานที่ตอบสนองต่อความต้องการขององค์กร เราลองมาดูโปรแกรมสำหรับลงเวลา เข้า ออกงาน ที่นิยมในตลาดว่าแต่ละโปรแกรมมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และโปรแกรมใดที่เหมาะที่จะเลือกนำมาใช้ในองค์กร
ในองค์กรต่าง ๆ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนพนักงานในองค์กรให้ทำงานตอบสนองต่อความต้องการขององค์กร โดยเริ่มตั้งแต่การสรรหาพนักงานเข้ามาทำงานให้ตรงกับความต้องการของตำแหน่งนั้น ๆ การดูแลและควบคุมพนักงานให้ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม จนไปถึงการลาออกของพนักงาน นอกจากพนักงาน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลแล้ว ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิ์ภาพก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ซึ่งก็มีอยู่เป็นจำนวนมากขึ้นอยู่ซอฟต์แวร์ตัวใดจะตอบโจทย์และใช้ต้นทุนน้อยที่สุด เราลองมาดูโปรแกรมที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องมีใช้งานเพื่อลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานว่ามีโปรแกรมอะไรบ้าง การเลือกสรรบุคคลเพื่อเข้ามาเป็นพนักงานในองค์กร ในข้อนี้โปรแกรมที่ใช้งานจะเป็นโปรแกรมประเภท Social Network ซึ่งก็คือ Linked in ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับจับคู่ระหว่างองค์กรและผู้ที่ต้องการหางาน โดยผู้ที่ต้องการหางานจะต้องสร้างโปรไฟล์ของตนเองเพื่อดึงดูดองค์กรต่าง ๆ ให้เข้ามาติดต่อเพื่อจ้างงานจึงทำให้องค์กรได้พนักงานที่มีสเปกตรงตามต้องการ และผู้หางานได้งานที่ตรงกับความสามารถของตนเอง การบริหารจัดการการลงเวลาเข้าออกของพนักงาน จนไปถึงการเบิกจ่ายของพนักงาน ซึ่งในแต่ก่อนฝ่ายฝ่ายทรัพยากรบุคคล
ระบบบันทึกเวลาเข้า-ออก Mobile Time Attendance เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นระบบการทำงานที่ตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบันที่พนักงานในองค์กรไม่จำเป็นต้องทำงานในออฟฟิต งานที่มีการออกนอกสถานที่อยู่บ่อยครั้ง ทำให้องค์กรสามารถควบคุมการทำงานผ่านระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Jarviz ก็มีการให้บริการระบบบันทึกเวลาการเข้าออก Mobile Time Attendance ที่ได้มาตรฐานรับรองจาก Microsoft Gold Partner โดยมีคุณสมบัติการทำงานเมื่อเทียบกับระบบ Mobile Time Attendance ดังนี้ รองรับการทำงานและการบันทึกเวลาเข้าออกจากนอกสถานที่ ซึ่งคุณสมบัตินี้ถือเป็นหัวใจหลักของระบบ Mobile Time Attendance และ Jarviz
Trend Micro คือ ? Trend Micro คือ โปรแกรม Antivirus ที่รักษาความปลอดภัยด้านการป้องกันมัลแวร์ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้มากกว่า 250 ล้านรายทั่วโลกให้ความไว้วางใจ จุดเด่นของ Trend Micro ป้องกัน ตรวจจับ และกำจัด Malwares มี Feature สุดเจ๋งอย่าง “Heuristic Scans” ช่วยค้นหาและกำจัด Malwares ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับในโปรแกรมต่างๆ ได้ อำนวยความสะดวกด้วย
Veracity คือ โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ Digital Signature ภายในองค์กร สำหรับยืนยันเอกสารฉบับจริง มีเทคโนโลยีป้องกันการปลอมแปลง และสามารถใช้เป็นเอกสารหลักฐานในทางกฎหมายได้เช่นเดียวกับเอกสารแบบลงนามในกระดาษด้วยปากกา เอกสารที่เหมาะกับการใช้งาน เอกสารสัญญาประกันภัย เอกสารรับรองผลการเรียน เอกสาร Certified E-Tax Invoice E-Receipt เอกสารที่ต้องส่งภายนอก เอกสารประกาศบน Website ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ประโยชน์ของ Veracity ลดการใช้กระดาษ และประหยัดพื้นที่จัดเก็บ ลดขั้นตอนในการจัดส่งเอกสาร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้รวดเร็วขึ้น ลดต้นทุนขอบริษัท ป้องกันการแก้ไขเอกสาร ลดทรัพยากรบุคคลในการจัดทำเอกสาร
ESET NOD32 Antivirus คืออะไร ? ESET NOD32 Antivirus เรียกสั้นๆว่า NOD32 เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัส(Antivirus) ที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในวงการไอทีอีกตัวหนึ่ง เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1987 โดยนาย Miroslav Trnka และ Peter Pasko บริษัทผู้พัฒนาจากประเทศสโลวาเกีย NOD32 ได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรธุรกิจในโลกยุคใหม่ ทำหน้าที่เสมือนเป็นเกราะป้องกันให้กับคอมพิวเตอร์ได้ทั้งขณะออนไลน์ หรือออฟไลน์ สามารถรองรับการตรวจจับไฟล์ที่ส่งไปมาบนอินเทอร์เน็ต ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น การส่งไฟล์ผ่านโปรแกรม
Kaspersky Antivirus หรือชื่อเดิม AntiViral Toolkits Pro คือ โปรแกรมสแกนไวรัสที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Kaspersky lab โดยออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ใช้คอมพิวเตอร์ PC, Mac และ Linux จากมัลแวร์ต่างๆ คุณลักษณะของ Kaspersky การป้องกันแบบเรียลไทม์ การตรวจจับ และกำจัดไวรัสอย่าง Trojans (โทรจัน), Worm (เวิร์ม), Spyware (สปายแวร์), Adware (แอดแวร์), Key Logger (คีย์ ล็อกเกอร์), Rootkits (มัลแวร์ รูทคิต) รวมถึงเครื่องมือที่เป็นอันตรายต่างๆ ปกป้องคอมพิวเตอร์
ในปัจจุบันโปรแกรมแอนตี้ไวรัสหลายๆยี่ห้อ ได้มีการพัฒนาเพื่อตอบสนองตามการใช้งานของผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากมีแพลทฟอร์มใหม่ๆเกิดขึ้นมาก และแพลทฟอร์มเหล่านั้นก็ต้องการความปลอดภัยจากการคามจากไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แลปท๊อป เว็บเบราเซอร์เป็นต้น ทำให้โปรแกรมแสกนไวรัสในยุคนี้ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทตัวเองจากแต่ก่อนที่เพียงแค่ป้องกันไวรัสต้องปรับตัวโดยการเพิ่มชุดชอฟแวร์สำหรับปกป้องภัยคุกความทั้งหลายที่จะเข้ามาหาผู้ใช้โดยชุดซอฟแวร์สำคัญที่โปรแกรมแอนตี้ไวรัสในปัจจุบันต้องมีจะมีดังนี้ โปรแกรมสแกนไวรัสสำหรับระบบปฏิบัติกำร ในปัจจุบันหลายๆยี่ห้อมีการพัฒนาให้ครอบคลุมระบบปฏิบัติการให้หลากหลายมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Windows Android MacOS หรือ Linux เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ชุดโปรแกรมสำหรับการป้องกันการถูกล๊อกหรือเข้ารหัสไฟล์ สำหรับในส่วนนี้เป็นตัวเลือกแรกๆที่ผู้ใช้จะใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะใช้สแกนไวรัสยี่ห้อใด เนื่องจากในปัจจุบันโปรแกรมเข้ารหัสไฟล์ระบาดอย่างหนักและที่สำคัญหากผู้ใดติดโปรแกรมชนิดนี้แล้ว โอกาสที่จะได้ไฟล์ข้อมูลกลับมาเกือบจะเป็นศูนย์เลยทีเดียว ชุดโปรแกรมป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาโจมตีระบบ สำหรับโปรแกรมในส่วนนี้จะเน้นไปทางผู้ดูแลระบบเสียมากกว่า เนื่องจากเป็นเป้าหมายหลักของเหล่าแฮกเกอร์ ชุดโปรแกรมสำหรับการปกป้องการทำธุรกรรมออนไลน์ เป็นอีกส่วนที่สำคัญที่ต้องใส่เข้ามาในระบบป้องกัน เนื่องจากผู้ใช้มีการทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้นเป็นจึงต้องการความปลอดภัยที่มากขึ้นตามไปด้วย ชุดโปรแกรมสำหรับปกป้องผู้ใช้จากการโจมตีผ่านเครือข่าย ซึ่งโปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีจะต้องปกป้องผู้ใช้ในทุกช่องทาง
โปรแกรมจัดการเอกสารยอดนิยมอย่าง Microsoft Office เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่มีการใช้แบบไม่ถูกลิขสิทธิ์มากที่สุด เนื่องจากเป็นโปรแกรมหลักที่ใช้ในการทำงาน และมีราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้ผู้ใช้หันไปใช้โปรแกรม Microsoft Office ที่มีการดัดแปลงโปรแกรมให้ใช้งานได้ฟรี หรือ office เถื่อนกันมาก จึงทำให้ผู้ใช้กลุ่มนี้ตกเป็นเป้าหมายของ virus หรือ malware ที่จะเข้ามาทำลายหรือขโมยข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ ออกไป และจากปัญหาที่เกิดขึ้น Microsoft จึงแก้ไขโดยการออกผลิตภัณฑ์ office 365 ที่สามารถจ่ายเป็นรายเดือนออกมาให้ลูกค้าได้ใช้ในราคาถูกกว่าการซื้อขาดแบบก่อนมาก แต่ก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ Microsoft Office License ถาวร
