Beamforming ของ WiFi
Beamforming ของ WiFi เป็นส่วนหนึ่งของ Spec Access Point ใน บางรุ่น ถ้ารุ่นไหนมีก็จะแพงกว่า รุ่นที่ไม่มี แหละ แล้วที่นี่ Beamforming มีไว้ทำไม ตอนนี้ผมจะมาให้คำตอบกันละ
Beamforming บีบสัญญาณ ลดจุดอับ
เนื่องจากธรรมชาติของการส่งสัญญาของ Access Point จะส่งออกมาทุกทาง เป็นวงกลม รัศมีเท่าๆ กัน แต่อุปกรณ์ปลางทาง บางอันก็อยู่ไกล บางอันก็อยู่ใกล้ ดังนั้น การส่งสัญญาเป็นวงกลมเลยไม่มีประสิทธิภาพ นั่นแหละ เพราะจะมีบางอุปกรณ์ที่รับส่งสัญญาณได้ดี แต่บางอันก็แต่ไปเลยแบบนี้ ตรงนี้แหละที่ Beamforming เข้ามาช่วย โดยปรับให้การส่งสัญญาณเป็นการส่งแบบ จาก Access Point ตรงเข้าไปอุปกรณ์ Client ได้โดยตรง ซึ่ง
เทคนิค Beamforming ช่วยให้ AP และ Client สามารถแลกเปลี่ยนตำแหน่งข้อมูลของตนได้ ส่งผลให้ AP สามารถปรับเฟสและกำลังส่งของสัญญาณให้เหมาะสมกับตำแหน่งของ Client ช่วยให้ส่งสัญญาณได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดจุดอับของสัญญาณ และช่วยเพิ่มระยะทางในการส่งได้เล็กน้อย
Beamforming แบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ
- Explicit Beamforming – ทั้ง AP และ Client ต่างแชร์ข้อมูลการรับสัญญาณ ณ ตำแหน่งที่ตัวอยู่ระหว่างกัน ช่วยให้สามารถปรับแต่งสัญญาณ (Steering) รับส่งกันระหว่าง 2 ตำแหน่งนั้นได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด อุปกรณ์ Wi-Fi ยุคใหม่ไม่เกิน 2 ปี เช่น iPhone และ iPad ต่างรองรับเทคนิคนี้
- Implicit Beamforming – อุปกรณ์ Wi-Fi แบบเก่า ทางฝั่ง AP จะตรวจสอบและปรับแต่งสัญญาณด้วยตนเอง เนื่องจากไม่มีการรับส่งข้อมูลสัญญาณกับ Client วิธีนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ดีเท่า Explicit แต่ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณให้ดีขึ้นได้ในระดับหนึ่ง
นี่แหละ ครับคือ Techni Beamforming ซึ่งจะมีอยู่ใน Access Point ราคาแพงขึ้นมาจากปกติ