Microsoft Office 365 หรือที่เรียกในชื่อย่อว่า 365 office
หลายๆคนที่ยังไม่เคยใช้อาจสงสัยว่าเป็น office เวอร์ชันใหม่หรือเปล่า เพราะก่อนหน้า Microsoft จะออกผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆที่ลงท้ายด้วยปี เช่น office 2010 ,office 2016 ,office 2019 ซึ่งก็จะมีการเพิ่มฟังก์ชัน และปรับเปลี่ยนหน้าตาไปบ้าง และในทุกรุ่นก่อนหน้านั้น ทาง Microsoft จะขายในรูปแบบขายขาดครั ้งเดียว จนมาถึงในปัจจุบัน เทรนการขายหรือให้บริการซอฟแวร์เกือบทุกๆแพลตฟอร์ม จะเน้นไปทางให้ทดลองใช้ฟรีก่อน และเมื่อหมดช่วงทดลองใช้ก็จะให้ชำระเป็นรายเดือน หรือลดฟังก์ชันการทำงาน เพื่อให้ลูกค้าซื้อรุ่น Pro โดยเทรนการขายในรูปแบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเงินก้อนในการซื้อซอฟแวร์ แต่จะเป็นการจ่ายเงินไม่กี่ร้อยบาทในรายเดือนแทน ซึ่งจะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ และที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือการดึงลูกค้าที่ใช้ซอฟแวร์เถื่อนให้เข้ามาในระบบ ทำให้ผู้ผลิตซอฟแวร์เริ่มเปลี่ยนมาใช้การขายในรูปแบบนี้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น Adobe ที่ปรับมาเป็นการขาย Adobe Creative Cloud ให้ลูกค้าเลือกซื้อเฉพาะโปรแกรมที่ต้องการใช้ แล้วชำระเงินเป็นรายเดือน ในส่วนของ Microsoft ก็เช่นกัน ที่ปรับตัวมาให้บริการในรูปแบบให้เช่าใช้งาน โดยออกผลิตภัณฑ์ Microsoft office 365 มาในรูปแบบให้ชำระเงินเป็นรายเดือน ซึ่ง office 365 นี้ก็ยังคงหน้าตาไม่ต่างกับผลิตภัณฑ์ในรุ่นก่อนๆ แต่จะมีจุดแข็งที่เพิ่มมา คือการรองรับการทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานพร้อมกันหลายๆคนในเอกสารเดียวกัน การบันทึกอัตโนมัติออนไลน์ การแชร์ไฟล์ให้เพื่อนร่วมงานได้ง่ายขึ้นเพียงแค่ส่ง Link ที่อยู่ไฟล์ไปให้กัน และยังมีฟังก์ชันต่างๆอีกมากมายที่ตอบโจทย์การทำงานเป็นทีม
Microsoft office 365 จะแบ่งประเภทการใช้งานหลักเป็นสี่แบบคือ ประเภทสำหรับใช้งานภายในบ้าน ประเภทใช้งานสำหรับธุรกิจ ประเภทสำหรับใช้งานในองค์กร และสำหรับการศึกษาซึ่งทั้งสามประเภทนี้อก็แบ่งเป็นแพคเกจย่อยออกมาอีกเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยมีแผนภาพดังนี้
ประเภทสำหรับใช้งานที่บ้าน ( For home )
ในประเภทนี้ จะเน้นลูกค้าที่ใช้งานเป็นการส่วนตัว หรือใช้งานภายในครอบครัว ซึ่งจะมีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับแบบ
อื่น โดยในส่วนของซอฟแวร์หลักๆ นั้นก็จะมีมาให้ใช้เกือบทุกตัว โดยเปรียบเทียบแพคเกจต่างๆได้ดังในตาราง
ประเภทใช้งานสำหรับธุรกิจ ( For business )
ในประเภทนี้ จะเป็นการเน้นการขายในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีโซลูชั่นที่รองรับสำหรับธุรกิจในทุกๆด้าน โดยมีรายละเอียดแพคเกจดังนี้
ประเภทสำหรับใช้งานในองค์กร ( Enterprise )
ประเภทสำหรับใช้งานในองค์กร จะเน้นการขายให้องค์กรขนาดใหญ่ หรือภาครัฐ ที่มีระบบภายในของตนเอง ทำให้มี solution ที่หลากหลายและมีซอฟแวร์ที่รองรับการใช้งานได้อย่างไม่จำกัด โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประเภทสำหรับการศึกษา (For education)
สำหรับประเภทสำหรับการศึกษานั้น Microsoft ได้ใส่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประกอบสำหรับการศึกษามาให้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้ตอบโจทย์ต่อการนำเอามาใช้กลุ่มขององค์กรทางการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยแพคเกจสำหรับการศึกษาจะมีดังนี้
จากทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ทำให้เห็นว่า Microsoft Office 365 มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมสำหรับลูกค้าครบทุกกลุ่ม ซึ่งในแต่และกลุ่มนั้นก็จะมีเพียงแค่จำเป็นเท่านั้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายของลูกค้า และเพื่อไม่ให้เสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปนั่นเอง